วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ข้าวแกงกะหรี่เนื้อ


อาหารสิ้นคิดอีกอย่างหนึ่งก็คือข้าวแกงกะหรี่(ญี่ปุ่น) เพราะว่าทำง่ายมาก เริ่มจากการหั่่นเนื้อให้เป็นชิ้นพอคำ โดยอาจจะใส่เนื้อวัว ไก่ หรือว่ากุ้งก็ได้ แต่อย่าใส่เนื้อหมู เพราะไม่อร่อยอย่างแรง เสร็จแล้วก็เอาหอมหัวใหญ่มาหั่นเป็นชิ้น ๆ เล็ก ๆ เสร็จแล้วก็เอาหอมหัวใหญ่ไปผัดกับน้ำมัน พอหอมหัวใหญ่เริ่มเป็นสีน้ำตาลอ่อน ก็ใส่เนื้อลงไปผัดกับหอมหัวใหญ่ พอเนื้อเริ่มสุก ก็เอาผักใส่ลงไป โดยอาจจะใส่แครอท กับ มันฝรั่งก็ได้ หรือว่าจะใส่ผักอย่างอื่น เช่น เห็ดก็ได้ พอผัดให้แครอทนุ่ม ก็ใส่น้ำลงไป แร่งไฟให้น้ำเดือด แล้วก็หรี่ไฟลง แล้วก็ใส่แกงกะหรี่ก้อนลงไปก้อนหนึ่ง ปกติจะใช้ยี่ห้อ Golden Curry แต่ถ้ามียี่ห้ออื่นก็ได้ เสร็จแล้วก็หรี่ไฟลง คนช้า ๆ จนน้ำเริ่มเหนียวข้น ก็ราดลงไปบนข้าวร้อน ๆ ก็อร่อยได้แล้ว



วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ขนมจีนน้ำเงี้ยว



ขนมจีนเป็นอาหารพื้นเมืองของคนเหนือ ตอนเป็นเด็ก ๆ ผมจะชอบกินมาก ถ้าอยู่ลำพูนต้องไปหากินแถวหน้าวัดพระธาตุ แต่ถ้าอยู่เชียงใหม่ก็ต้องกาดหลวงตอนเที่ยงคืน และแน่นอนขนมจีนที่อร่อยที่สุดก็ต้องเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยว

วิธีการทำ ก็เริ่มจากเอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟ แล้วก็ใส่กระดูกหมูลงไปต้มเอาน้ำซุป พร้อมกับใส่ซี่โครงหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำลงไป ต้มไฟกลางไปเรื่อย ๆ คอยดูน้ำอย่าให้แห้ง

ระหว่างที่ต้มน้ำซุปไป ก็ไปทำน้ำพริก เอาพริกแห้งแช่น้ำ แล้วเอามาโขลกกับหอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ รากผักชี กะปิ เกลือนิดหน่อย โขลกให้เข้ากัน เน้นพริกนิดหนึ่ง พอเข้ากันดี ก็เอากะทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย แล้วก็เอาน้ำพริกที่โขลกดีแล้วลงไปผัด พอหอม ก็ใส่หมูสับลงไปผัดกับน้ำพริก พอหมูสุก ก็ใส่มะเขือเทศลงไปผัดให้สุก เสร็จแล้วก็เทของที่อยู่ในกะทะลงไปในหม้อ เร่งไฟให้น้ำเดือด แล้วก็ใส่เลือดหมูหั่นเป็นลูกเต๋าลงไป แล้วก็หรี่ไฟ เคี่ยวน้ำซุปไปเรื่อย ๆ (จะให้ดีต้องค้างคืน) จะได้รสที่เข้มข้น 

เตรียมเส้นขนมจีน ถ้าอยู่เมืองไทย ก็ไปซื้อที่ตลาด ถ้าอยู่เมืองนอก ก็เอาเส้นเฝอ(ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม) มาทำก็ได้ พร้อมกับเครื่องเคียง เช่น มะนาว น้ำปลา ผักกาดดองหั่นฝอย ผักชี และอื่น ๆ ก็พร้อมอร่อยได้แล้ว