วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

ผัดถั่วงอกเต้าหู้


อาหารง่าย ๆ ราคาประหยัดครับ ถั่วงอกสองกำมือใหญ่ ห้าบาท เต้าหู้เหลืองหนึ่งก้อน แปดบาท กระเทียม ต้นหอม น้ำมันพืช หมูสับ ซีอิ๊วหาเอาในครัว จานนี้กินกัน 2-3 คนอิ่ม น่าจะไม่เกินยี่สิบบาท

วิธีการทำ ก็เอาถั่วงอกไปล้างก่อน ค่อย ๆ คัดเอาเปลือกเขียว ๆ ออก จะได้ไม่ระคายคอ เต้าหู้หั่นเป็นชิ้นพอคำ ซอยกระเทียม สับต้นหอมรอ เมื่อเครื่องปรุงพร้อม ก็เอากะทะใบใหญ่ ๆ ตั้งไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อน ก็เจียวกระทียม พร้อมกับใส่เต้าหู้ลงไปด้วย หมั่นพลิกเต้าหู้อย่าให้ติดกะทะ พอเต้าหู้เริ่มมีสีเหลืองจากการทอด ก็ใส่หมูสับลงไป ตามด้วยซอสหอยนางรมและซีอิ๊วดำ (ซีอิ้วหวาน) นิดหน่อย ผัดจนหมูสุก ก็เร่งไฟให้แรง แล้วรีบใส่ถั่วงอกลงไป ถ้าใครชอบถั่วงอกกรอบก็ใช้ไฟแรงผัดสักพักก็เอาขึ้นได้เลย แต่ถ้าใครชอบถั่วงอกนุ่ม ก็ใช้ไฟแรงตอนต้น แล้วค่อย ๆ หรี่ไฟลง ระหว่างนั้น ก็ใส่ซอสหอยนารมและซีอิ๊วขาวเพิ่มลงไปอีกนิดหน่อย สักพักก็ใส่ต้นหอมซอยลงไป พอถั่วงอกได้ที่แล้วก็ปิดไฟ ตักใส่จานได้เลยครับ

บางบ้านจะใส่วุ้นเส้นด้วย กลายเป็นอาหารที่ทำจากเครื่องปรุงที่มาจากถั่วถึง 5 ชนิดด้วยกันนะครับ :)

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

คั่วจิ้นส้ม



คั่วเป็นการทำอาหารทางเหนือที่คล้ายกับการผัด ส่วนจิ้นส้มก็เป็นคำเรียกแหนมในภาษาเหนือ ซึ่งแหนมเป็นวิธีถนอมอาหารที่ให้การหมักให้เปรี้ยวโดยใช้ข้าวและน้ำตาล ซึ่งรสเปรี้ยวนั้นมาจากเชื้อจุลินทรีย์กลุ่มแบคโตบาซิลลัส ดังนั้นการรับประทานแหนม ต้องทำให้สุกก่อน และแหนมมีอายุการเก็บที่ไม่นานมาก โดยถ้าเก็บในตู้เย็นจะอยู่ได้ประมาณหนึ่งเดือน แต่ถ้าเก็บนอกตู้เย็นก็จะอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ คำว่าจิ้นส้มนั้น จิ้มก็แปลว่าเนื้อ ส้มแปลว่าเปรี้ยวครับ

คั่วจิ้นส้มก็คือการเอาแหนมมาผัดกับไข่ วิธีการทำก็เริ่มจากการเจียวกระเทียมในน้ำมันพืชให้หอม เสร็จแล้วก็ยีแหนม แล้วจึงนำแหนมลงไปผัดให้สุก ใส่หอมหัวใหญ่ที่หันซอยแล้ว ตามด้วยวุ้นเส้น ผัดให้เข้ากัน สุดท้าย ตอกไข่ไก่ลงไป ยีไข่ให้ไข่แดงแตกแล้วผัดให้เข้ากับแหนม สุดท้าย เมื่อไข่สุก ใส่พริกชี้ฟ้า และต้นหอมหั่นลงไป บางบ้านก็จะใส่กระเทียมดองด้วย พอสุกก็ปิดไฟ รับประทานได้ครับ

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

มันต้มขิง


น้ำขิงมีสรรพคุณทางยาช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยย่อย และยังช่วยลดความดันอีกด้วย แต่ความเผ็ดของน้ำขิงก็ทำให้หลายคนไม่กล้ากิน ทางหนึ่งที่ทำได้ก็คือเอาไปทำอาหารหรือของหวานครับ ซึ่งมันต้มขิงก็เป็นของหวาน(?)ที่ทำง่ายมาก วิธีการทำก็เอาขิงแก่มาฝานเอาเปลือกออกให้หมด แล้วล้างให้สะอาด เสร็จแล้วก็หั่นให้เป็นแผ่นหนาประมาณสักครึ่งเซ็นติเมตร สำหรับมันก็ใช้มันเทศหรือว่ามันฝรั่งก็ได้ครับ แต่มันเทศจะอร่อยหวานกว่ามันฝรั่ง หั่นมันให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดสักหนึ่งนิ้ว เมื่อเตรียมเสร็จแล้ว ก็เอาหม้อตั้งไฟใส่น้ำให้เดือด ใส่เกลือลงไปนิดหนึ่ง ใส่ขิงและมันลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนมันนุ่ม วิธีการทดสอบก็ลองเอาทัพพีหยิกลงไปในเนื้อมันครับ ถ้าหยิกลงไปได้ง่าย ก็แสดงว่านุ่มดีแล้ว ก็ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ แต่อย่าให้หวานมากครับ พอน้ำตาลละลายหมดดีก็ปิดไฟ ยกลงได้

กุ้งอบวุ้นเส้น



วิธีทำ ก็เริ่มจากเอาวุ้นเส้นมาแช่น้ำไว้(ไม่ต้องตัด) พอวุ้นเริ่มนุ่ม ก็เอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟ แล้วใส่ซุปก้อนลงไป ถ้ามีซุปกุ้งก็ใช้ซุปกุ้ง ถ้าไม่มี ก็ใช้ซุปไก่ เสร็จแล้ว ก็เอาหม้อดินมา ถ้ามีมันหมูแข็ง ก็หั่นบาง ๆ ลงไปวางเรียงไว้ที่ก้นหม้อ แล้วก็ซอยขิงและหั่นกระเทียมลงไปจนเต็มก้นหม้อ แล้วก็โรยพริกไทยลงไปเยอะ ๆ ถ้ามีรากผักชีก็จะดีมาก เทน้ำซุปลงไปนิดหน่อยพอให้ท่วมก้น เสร็จแล้วก็เอาหม้อดินขึ้นตั้งไฟ แล้วก็แกะกุ้งไปด้วย พอน้ำซุปก้นหม้อดินเริ่มเดือด ก็เอาช้อนคนจนเริ่มมีกลิ่นหอมลอยขึ้นมา ก็เอากุ้งลงไปวางเรียง ๆ แล้วก็เทวุ้นเส้นและน้ำซุปลงไปในหม้อดิน เทซีอิ้วดำลงไปนิดหน่อย แล้วก็คนไปคนมาสักพัก แล้วก็เอาฝาปิด เร่งไฟให้แรง คอยสังเกตุไอน้ำที่ออกมาจากฝา พอไอน้ำเริ่มหาย ก็หรี่ไฟแล้วเปิดฝามาดูว่าวุ้นเส้นเริ่มแห้งหรือยัง พอแห้ง ก็โรยหน้าด้วยผักชี แล้วก็กินได้เลย

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

เจี๋ยวไข่ใส่เต้งมดส้ม


เจี๋ยวเป็นวิธีการทำอาหารแบบง่ายและเร็วของคนเมือง หลักใหญ่ๆคือการเอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้เดือดใส่หอมแดงลูกเล็ก ๆ กะปิ เกลือ หรือปลาร้านิดหน่อย แล้วก็ใส่ผักสดและไข่ลงไปพอไข่สุกก็ยกขึ้น กินได้เลย

สำหรับเจี๋ยวไข่ใส่เต้งมดส้มน้ำ ส่วนสำคัญคือ เต้งมดส้ม หรือว่าไข่มดแดง โดยเฉพาะในหน้าร้อนไข่มดแดงจะสวยน่ากินที่สุด เพราะมีทั้งไข่อ่อนอันโตๆ และบางทีก็มีมดแดงที่เพิ่งออกจากไข่ด้วย ซึ่งถ้าไปซื้อไข่มดแดงมาจากตลาดแล้วก็เอามาล้างให้สะอาดและพักไว้ ระหว่างนั้นก็เอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้เดือด ใส่หอมแดงทุบสัก 2-3 ลูก กะปินิดหน่อย พริกแห้ง มะเขือเทศลูกเล็กหั่นซึก ต้นหอม ผักชีลงไป แล้วก็ตีไข่ไก่ให้ไข่แดงกับไข่ขาวเข้ากัน เทไข่มดแดงลงไปในไข่ไก่ ผสมให้เข้ากันแล้วก็เทลงไปในหม้อ คนสักพักพอไข่ไก่สุกดี ก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา ก็ยกลงได้เลยครับ

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

แกงผักพ่อค้าตีเมีย



ผักพ่อค้าตีเมีย หรือ ผักกับแก้ เป็นผักในตระกูลเฟิร์นขนาดเล็กพบมากในป่าที่มีความชื้นสูงและมีอุณหภูมิที่เย็น จึงพบมากในแถบภาคเหนือ ลักษณะเด่นคือมีก้านที่กรอบ ซึ่งไม่ว่าจะแกงนานแค่ไหนก็ตาม ก้านก็จะคงความแข็งกรอบอยู่เสมอ สำหรับชื่อพ่อค้าตีเมียมาจากตำนานที่ว่า มีพ่อค้าคนหนึ่งเดินทางกลับบ้านพร้อมกับความหิว ในครัวไม่มีอาหารอะไรเลย ภรรยาจึงเก็บผักนี้มาต้มให้กิน ยิ่งต้มนาน พ่อค้าก็ยิ่งหิว เมื่อภรรยาเอาแกงผักนี้มาให้กิน พ่อค้าก็โกรธเพราะว่าคิดว่ายังผักไม่สุกดี จึงเอาไม้ตีเมียด้วยความโกรธผสมกับความหิว จึงเป็นที่มาของชื่อผักพ่อค้าตีเมีย

สำหรับวิธีทำแกงผักพ่อค้าตีเมียก็เริ่มจากการเตรียมพริกแกง โดยการโขลกกระเทียม หอมแดง กะปิ พริกแห้ง และเกลือเข้าด้วยกัน โขลกจนละเอียด ระหว่างนั้นก็ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่พริกแกงลงไป พอน้ำเดือดอีกครั้ง ก็ใส่ปลาแห้งลงไป รอจนปลาแห้งสุกนิ่มดี ก็ใส่เห็ดนางฟ้าและเห็ดหูหนูที่ล้างจนสะอาดแล้ว สักพักก็ใส่ผักพ่อค้าตีเมียลงไปในหม้อ ต้มไปเรื่อย ๆ จนยอดของผักพ่อค้าตีเมียนุ่มดี ก็ใส่มะเขือเทศลูกเล็กและชะอม คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้จนชะอมสุก ก็ปิดไฟ ปรุงรสด้วยน้ำปลานิดหน่อยครับ

ลักษณะเด่นของผักพ่อค้าตีเมียก็คือ เมื่อแกงสุกแล้ว ยอดจะนุ่ม ในขณะที่ก้านยังกรอบ เคี้ยวสนุกครับ

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

หอยทอด

หอยทอดเป็นอาหารที่ทำไม่ยาก ใช้เครื่องปรุงไม่เยอะ สิ่งที่ต้องมีก็คือ หอยแมลงภู่ แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน(หรือว่าแป้งเท้ายายหม่อม) ไข่ และ ถั่วงอก วิธีทำก็เริ่มจากผสมแป้งข้าวเจ้าสองส่วน แป้งมันหนึ่งส่วน และน้ำเย็นจัดหนึ่งส่วนเข้าด้วยกัน แล้วคน ๆ ให้แป้งผสมเข้ากับน้ำ ถ้าน้ำน้อยไป ก็เติมน้ำอีกนิดหน่อยได้ เสร็จแล้ว เอาหอยไปต้มให้สุก พยายามเปลี่ยนน้ำหลาย ๆ ครั้ง หอยจะได้ไม่มีกล่ิน พอหอยสุก ก็เอากะทะแบน ๆ ตั้งไฟแรง ๆ แล้วเทน้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มเป็นไอ ก็เทน้ำแป้งลงไปบนกะทะ พอแป้งเริ่มแห้ง ก็โรยหอยลงไป แล้วก็ตอกไข่ใส่ลงไป พอไข่เริ่มสุก ก็พลิกเอาด้านบนลงไปทอดบ้าง ขณะเดียวกัน ก็เอาถั่วงอกลงไปไปกะทะ พลิกกลับไปกลับมาเร็ว ๆ พอแป้งเริ่มเกรียมกรอบ ถั่วงอกเริ่มใหม้ ก็เอาขึ้นใส่จานได้

วิธีทำน้ำจิ้ม ถ้าขี้เกียจ ก็ใช้ซอสศรีราชา แต่ว่ามันจะเผ็ดนิดหน่อย ถ้าอยากทำน้ำจิ้มแบบไม่เผ็ดมาก ก็เอาซอสศรีราชาผสมกับน้ำส้มสายชูนิดหน่อย น้ำตาล และน้ำปลา ผสม ๆ ให้เข้า ๆ กัน ก็เสร็จแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

มอกปลาลิง


สูตรมอกปลาลิงนี้ ได้มาจากหนังสือ ตำรับอาหารพระราชวังหลวงพระบาง ของ เพียสิง จะเลินสิน นะครับ มีสูตรอาหารที่น่าสนใจอยู่หลายสูตรทีเดียว บางอย่างก็คงหาทำหากินยากมาก เช่น ขาฟานปิ้ง เพราะไม่รู้จะไปหาฟานมาจากไหน

สำหรับมอก คือการเอาอาหารที่ห่อใบตองไปใส่หวดหรือลังถึงนึ่งจนสุก ซึ่งก็คล้าย ๆ กับห่อหมกทางภาคกลาง หรือว่า ห่อนึ่งทางภาคเหนือนั่นเอง ส่วนปลาลิง ก็เป็นปลาพันธุ์หนึ่งในสกุลปลาสวาย ซึ่งตอนทำจริง ๆ ก็ใช้ปลาสวายหรือว่าปลาดุกทำนะครับ

วิธีการทำก็เริ่มจากเอาส่วนท้องปลาที่มีมันเยอะ ๆ กับส่วนท่อนหาง เอามาตัดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 2-3 นิ้วมือ แล้วก็ค่อย ๆ หั่นตับปลาให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นกัน ล้างน้ำให้สะอาด พักไว้ ระหว่างนั้นก็ไปเตรียมน้ำพริก ใช้ตะไคร้ 2 หัว พริกแห้งแช่น้ำจนเปื่อย 1 เม็ด หอมแกง(หอมแดง) 6 หัว รากผักชี 2-3 ต้น ตำในแหลกละเอียดเข้ากันดี

เมื่อเตรียมเครื่องไว้ครบแล้ว ก็เอาน้ำพริกไปคลุกับเนื้อปลา โรยเกลือ และน้ำปลานิดหน่อย ใส่น้ำพอให้ไม่แห้งมาก เอานิ้วแตะ ๆ ชิมดูว่าเค็มได้ที่หรือยัง เมื่อได้ที่แล้วก็ใส่ใบต้นหอมซอยและใบแมงลักลงไป คลุกให้เข้ากัน แล้วห่อด้วยใบตอง เอาไม้กลัดกลัดไว้ เอาเอาไปนึ่งให้สุก เมื่อสุกดี ก็เอามาเปิดใส่จานโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย รับประทานกับข้าวร้อน ๆ อร่อยมากครับ