แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตุ๋น แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตุ๋น แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ตุ๋นดอกไม้จีน ใส่หมูสับห่อกะหล่ำปลี



มีคนอยากกินหมูสับห่อกะหล่ำปลี ก็เลยทำให้กิน วิธีการทำก็เริ่มจากเอาหมูสับมาหมักกับซีอิ้วขาว พริกไทย และ กระเทียม หมักทิ้งไว้สักพัก ระหว่างนั้น ก็ต้มน้ำในกะทะใบใหญ่หน่อย กะว่าใส่ใบกะหล่ำปลีลงไปทั้งใบได้ ตั้งไฟให้น้ำเดือด ใส่เกลือลงไปนิดหน่อย พอน้ำเดือด ค่อย ๆ ลอกใบกะหล่ำปลีออกจากหัวทีละใบ บ้างให้สะอาด ตัดก้านที่แข็งออกไปสักนิด แล้วเอาลงไปลอกทั้งใบ พลิกด้านกลับไปกลับมาเป็นระยะ ๆ พอใบเริ่มสุก สังเกตุจากว่าใบกระหล่ำปลีจะใส ก็เอาขึ้นมาจากน้ำร้อน แล้วใส่ลงไปในน้ำเย็นทันที เพื่อหยุดการสุกของใบกระหล่ำปลี ไม่งั้นมันจะเละนะครับ ทำจนหมดใบกระหล่ำปลีที่เตรียมไว้

พอเตรียมใบกะหล่ำปลีกับหมูพร้อมแล้ว ก็ห่อหมูสับโดยตักหมูสับพอประมาณวางตรงก้านใบ แล้วค่อย ๆ ม้วนไปทางปลายใบ พอม้วนได้ครึ่งทาง ก็พับเอาด้านข้างสองข้างเข้ามา แล้วค่อยม้วนต่อ จะได้แป็นก้อนทรงกระบอกที่ไม่คลายตัวง่าย ๆ พอม้วนเสร็จ ก็เตรียมน้ำซุบโดยต้มกระดูกหมู รากผักชี เม็ดพริกไทยขาวนิดหน่อย กระเทียม เกลือนิดหน่อย พอได้น้ำซุบแล้ว ก็เอาหมูที่ห่อเสร็จแล้ว วางเรียงในหม้อตุ๋น ใส่น้ำซุบลงไป ตามด้วยดอกไม้จีน ผมใช้ดอกไม้จีนไม่ฟอกสีนะครับ เลยสีดำหน่อย และผมใส่เห็ดออเรนจิลงไปด้วย เพื่อให้น้ำซุบมันหวานยิ่งขึ้น ใส่เห็ดอย่างอื่นได้ครับ แต่อย่าใส่เห็ดหอมเพราะกลิ่นมันแรงไป กลบกลิ่นอื่นหมด พอเตรียมเสร็จ ก็เอารังถึงขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือด ก็เอาหม้อตุ๋นไปวาง ตุ๋นจนเห็ดนุ่มก็ปิดไฟ สามารถเติมซีอิ้วขาวและน้ำมันงานนิดหนึ่งเพื่อปรุงกลิ่นนะครับ

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ก๋วยเตี๋ยว(หลอด)(น่อง)ไก่ตุ๋น

เด็กที่บ้านอยากกินน่องไก่ตุ๋น ก็เลยได้ออกมาแบบนี้เห็น



วิธีทำก็เริ่มจากเอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟใส่ซี่โครงไก่ลงไปต้มให้ได้น้ำซุป ถ้าไม่มีก็ใช้ซุปไก่ก้อนก็ได้ครับ พอน้ำเริ่มร้อนก็ใส่ขึ้นฉ่าย เกลือนิดหน่อยและรากผักชีลงไป ต้มลงไปเรื่อย ๆ จนซุปข้นดีนะครับ ก็หรีไฟพักไว้




ต่อมาก็เอาหม้อตุ๋นขึ้นตั้งไฟนะครับ ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อยแล้วก็กระเทียมลงไปผัดพอหอมก็ใส่อบเชย (ที่เห็นแป็นแท่ง ๆ) กับโป๊ยกั๊ก (ดอกไม้แปดแฉก) แล้วก็พริกไทยลงไปนะครับ




ผัดไปสักพักก็เร่งไฟให้แรงแล้วใส่น่องไก่ลงไปผัดให้ด้านนอกสุกนะครับ พอด้านนอกสุกดี ก็เอาน้ำซุปที่ทำตอนแรกใส่ลงไปในหม้อตุ๋น ปล่อยให้ไฟแรงไปสักพักจนน้ำเดือดระหว่างนั้นก็ชอนฟองออกเรื่อย ๆ พอน้ำเดือดก็หรี่ไฟลงให้เหลือแต่ไฟอ่อน ปิดฝาแล้วเคี่ยวไปเรื่อย ๆ นะครับ



ระหว่างนั้นก็ไปลวกเส้นนะครับ พอดีว่าวันนี้จะกินเส้นก๋วยจับกัน ก็นึ่งเส้นแทน แล้วก็อย่าลืมลวกถั่วงอกไว้ด้วยนะครับ พอเส้นพร้อมแล้วก็กินได้เลยครับ




วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

หมูสับห่อผักกาดขาวตุ๋นเห็ดหอม

วันนี้คิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี ก็เลยเปิดตำราหาอะไรแปลก ๆ กินซะเลย ก็เลยเจอเจ้านี้เข้า ก็เลยลองทำดู (จริง ๆ ในหนังสือมันจะต่างจากนี้ แต่ว่านี่ก็ improvise เอาบ้าง)


วิธีการทำก็เริ่มจากเอาหมูสับมาผัดกับเต้าหู้แข็ง ก็ผัดไปเรื่อยจนหมูสุกก็เอาขึ้นมาพักไว้ ต่อมาก็เอาหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่ใบผักกาดขาวลงไปต้ม จนผักกาดขาวนิ่มก็เอาขึ้นมาแช่น้ำเย็น ไม่งั้นผักกาดขาวจะเละนะครับ อ้อ ผมเอาก้านคื่นช่ายฝรั่งลงไปต้มด้วย เดี๋ยวจะเอามามัดนะครับ แต่ถ้าไม่มี ก็ใช้ผักอะไรก็ได้ที่ยาว ๆ ใช้มัดได้ แต่ไม่ควรใช้พวกต้นหอมนะครับ เพราะว่ากลิ่นมันแรง พอผักกาดขาวเย็นดีแล้ว ก็ตักหมูผัดเต้าหู้วางลงไปบนผักกาดขาว ก็วางลงไปตรงก้านนะครับ แล้วก็ค่อย ๆ ม้วนใบผักกาดขาวขึ้นไปจนสุดแล้วก็พับปลายสองข้างให้ปิดหัวท้ายไว้นะครับ เสร็จแล้วก็เอาก้านคึ่นช่ายฝรั่งมาฉีก ๆ ให้เป็นเส้นแล้วก็เอามามัดไว้ แล้วก็เอาไปเรียงไว้ในหม้อตุ๋นนะครับ ทำไปจนหมูที่ทำไว้หมด หรือว่าใบผักกาดขาวหมดนะคับ ต่อจากนั้น ก็เอาน้ำซุบกระดูกหมูใส่ลงไปจนท่วม จะให้ดี ไม่ควรใช้น้ำซุบที่มันเกินไปนะครับ จะทำให้ผักเสียรสชาติ ถ้าจะทำง่าย ๆ ก็ใช้ซุบหมูก้อนคะน้อเอาก็ได้ ราดน้ำซุบลงไปแล้ว ก็ใส่ซีอิ้วขาวลงไปหน่อยเพื่อให้มีกลิ่นและได้รสชาติดีขึ้น ตามด้วยน้ำมันงานะครับ น้ำมันงานี่ อย่าใส่เยอะนะครับ จะเลี่ยน ใส่พอให้ได้กลิ่นหอมก็พอแล้ว ตรงกลางก็เอาเห็ดหอมมาวางไว้สักสองสามหัวนะครับ เสร็จแล้วก็เอาหม้อตุ๋นตั้งไฟ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ กะว่าผักนิ่มมากแล้ว ก็กินได้แล้วคัรบ

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เนื้อตุ๋นเห็ดหอม



มีเนื้อเหลืออยู่ในตู้เย็นนานแล้วก็เลยเอามาตุ๋นซะเลย ขั้นตอนก็เริ่มจากหั่นเนื้อเป็นชิ้นลูกเต๋านะครับเวลาตุ๋นจะได้ไม่เละเกินไป แล้วก็เอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟนะครับ ถ้ามีหม้อดินก็จะดีกว่าหม้อเหล็กนะเพราะว่าจะกระจายความร้อนได้ดีกว่า พอน้ำเดือดก็เอาเนื้อใส่ลงไปพร้อมกับหรี่ไฟนะครับแล้วก็ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว และซีอิ้วดำนะครับ ระหว่างนั้นก็เอากระเทียมมาโขลกกับพริกไทยเม็ดและลูกผักชีนะครับ พอโปลกได้ที่แล้วก็เอาไปใส่ในหม้อแล้วก็เคี่ยวเนื้อไปเรื่อย ๆ พอเนื้อสุกก็ใส่เห็ดหอมลงไป ปิดฝาเคี่ยวไฟอ่อนสุดไปสักสองชั่วโมงนะครับ คอยดูว่าน้ำงวดหรือเปล่า ถ้างวดก็ใส่น้ำลงไปเพิ่มบ้าง พอเนื้อนุ่มได้ที่ก็กินได้แล้วครับ

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ไข่ตุ๋น

Steam Egg

หลังจากไมโครเวฟถือกำเนิดขึ้นมาในโลก ไข่ตุ๋นกลายเป็นอาหารที่ทำง่ายที่สุดในโลกทันที แค่ตีไข่ในถ้วย แล้วเอาเข้าเวฟสักแป๊บนึงก็มีอาหารกินกันตายแล้ว

อย่างไรก็ตาม การทำไข่ตุ๋นให้อร่อย มีทริกเล็กน้อยดังนี้ครับ
  • ใจความสำคัญของไข่ตุ๋น ให้ท่องไว้ว่า "นิ่ม เค็ม ร้อน"
  • นิ่ม - ทำให้ไข่ตุ๋นและองค์ประกอบมีความอ่อนนุ่ม ละไมลิ้นที่สุด เนื้อสัตว์ที่ควรใช้คือหมู หรือแฮม (อย่ากระแดะใส่เนื้อหรือปลากรอบลงไปเด็ดขาด) ส่วนตัวไข่นั้น ทริกคือให้ใส่นมเล็กน้อย ถ้าไม่มีนมใช้เนยแทนก็ได้
  • เค็ม - เนื่องจากว่าเรามักไม่กินไข่ตุ๋นเปล่าๆ แต่กินกับข้าว ดังนั้นเราต้องทำให้รสชาติโดดเด่นขึ้นมา เพื่อผสมกับข้าวแล้วจะได้พอดี แนะนำให้เติมน้ำปลาหรือซีอิ๊วเยอะกว่าปกติเล็กน้อย และใส่พริกไทยนิดหน่อย
  • ร้อน - ไข่ตุ๋นต้องกินร้อนๆ ครับ อย่าให้ชืดเด็ดขาด หลาย คนน่าจะมีประสบการณ์กินไข่ตุ๋นที่ขายตามโรงอาหาร ซึ่งทำทิ้งไว้ตั้งกะเช้า จะพบว่ามัน มมด. อย่างแรง ดังนั้นทำเสร็จแล้วกินทันที ถ้าเหลือควรอุ่นให้ร้อนทุกครั้งก่อนรับประทาน

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ไก่ตุ๋นฟักมะนาวดอง


ช่วงนี้หนาว ๆ ก็เลยต้องกินอะไรที่มันร้อน ๆ หน่อย นั่นก็คือฟักต้มนั่นเอง ฟักเป็นอาหารที่เก็บความร้อนได้ดี (คนสมัยก่อน เขาจะเอาฟักทั้งลูกต้มในน้ำเดือด แล้วโยนใส่ปากจรเข้ มันก็จะไปร้อนในท้องจรเข้จนตาย) เอามาตุ๋นกับน้ำซุปไก่ ก็จะเก็บคุณค่าอาหารได้มาก

วิธีการทำก็ไม่ยากครับ ล้างไก่ พยายามเอาส่วนที่เป็นเนื้อแดง (เช่นน่อง หรือว่า ปีก) อย่าเอาเนื้อขาว(เช่นอก) มาทำเพราะจะได้น้ำซุบที่จืดไป พอไก่สะอาดแล้ว ก็เอามาต้มกับน้ำเปล่า ต้มใช้ไฟกลางจนไก่สุก คอยช้อนเอาฟองออก ก็หั่นฟักเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนน้ำซุปไก่เริ่มข้น ก็หรี่ไฟให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ แล้วใส่มะนาวดองลงไป หน้าตาของมะนาวดอง(สำเร็จรูป)เวลาจะไปหาซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตก็แบบด้านล่างนะครับ


ใส่มะนาวดองลงไป แล้วก็ปิดฝาทิ้งไว้ซักชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ