แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อบ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อบ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

กุ้งอบวุ้นเส้น



วิธีทำ ก็เริ่มจากเอาวุ้นเส้นมาแช่น้ำไว้(ไม่ต้องตัด) พอวุ้นเริ่มนุ่ม ก็เอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟ แล้วใส่ซุปก้อนลงไป ถ้ามีซุปกุ้งก็ใช้ซุปกุ้ง ถ้าไม่มี ก็ใช้ซุปไก่ เสร็จแล้ว ก็เอาหม้อดินมา ถ้ามีมันหมูแข็ง ก็หั่นบาง ๆ ลงไปวางเรียงไว้ที่ก้นหม้อ แล้วก็ซอยขิงและหั่นกระเทียมลงไปจนเต็มก้นหม้อ แล้วก็โรยพริกไทยลงไปเยอะ ๆ ถ้ามีรากผักชีก็จะดีมาก เทน้ำซุปลงไปนิดหน่อยพอให้ท่วมก้น เสร็จแล้วก็เอาหม้อดินขึ้นตั้งไฟ แล้วก็แกะกุ้งไปด้วย พอน้ำซุปก้นหม้อดินเริ่มเดือด ก็เอาช้อนคนจนเริ่มมีกลิ่นหอมลอยขึ้นมา ก็เอากุ้งลงไปวางเรียง ๆ แล้วก็เทวุ้นเส้นและน้ำซุปลงไปในหม้อดิน เทซีอิ้วดำลงไปนิดหน่อย แล้วก็คนไปคนมาสักพัก แล้วก็เอาฝาปิด เร่งไฟให้แรง คอยสังเกตุไอน้ำที่ออกมาจากฝา พอไอน้ำเริ่มหาย ก็หรี่ไฟแล้วเปิดฝามาดูว่าวุ้นเส้นเริ่มแห้งหรือยัง พอแห้ง ก็โรยหน้าด้วยผักชี แล้วก็กินได้เลย

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ไข่เบคอนอบชีส


อาหารเช้าที่ทำง่ายอีกหนึ่งอย่างครับ เอาจานขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาทาเนยให้ทั่ว หั่นแฮมหรือเบคอนให้ส่งลงไปในจานได้ แล้ววางเรียงไว้สักสองชั้น ตามด้วยชีสที่ชอบครับ อาจจะเป็นพาร์เมสัน หรือว่า เชดดาร์ก็ได้ ตบท้ายด้วยการตอกไข่ลงไปหนึ่งฟอง แล้วก็เอาเข้าเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 150 องศาเซลเซียส อบไปเรื่อย ๆ จนไข่สุก ชีสเป็นสีทองสวย ก็เอาออกมาจากเตาอบ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เกลือ และ พริกไทย ก็อร่อยได้แล้วครับ

สูตรจาก ป้าเพชร

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง


เด็กสองคนที่บ้านซื้อซี่โครงหมูมาบอกว่าให้ทำให้กินด้วย แล้วมันก็อยู่ในตู้เย็นมาเกือบเดิน พึ่งได้มีโอกาสจัดการเอามาทำอะไรกิน ตอนแรกก็ว่าจะเอาย่าง แต่คิดไปคิดมา เอามาอบน้ำผึ้งดีกว่า

วิธีการทำก็เอาซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำนิดหน่อย ซอสหอยนางรม น้ำผึ้ง พริกไทย กระเทียม รากผักชี ผสมกันใส่ชามอ่านใหญ่ ๆ ไว้ เน้นน้ำผึ้งกับซอสหอยนางรมนะครับ เสร็จแล้วก็เอาซี่โครงหมูมาหั่นเป็นชั้น ๆ ให้มีสัก 5-6 ซี่ต่อชิ้น แล้วก็หมักกับซอสที่ทำไว้สักชั่วโมง-สองชั่วโมง หรือว่าใครจะหมักไว้ค้างคืนก็ได้ครับ พอหมักได้ที่ก็อุ่นเอาอบไปที่สัก 350F พอความร้อนได้ที่ ก็เอาซี่โครงหมูเข้าไปอบ พยายามหาตะแกรงมารองด้านล่าง ให้มันหมูมันหยดลงข้างล่างนะครับ ไม่งั้นหมูจะแฉะ แต่ก็หาชามกระเบื้องหรือว่ากะบะโลหะรองมันหมูที่หยดไว้นะครับ เพราะว่าจะเอามาทาซี่โครงหมูเรื่อย ๆ ไม่งั้นเนื้อก็จะแห้งเกินไปอีก ก็อบไปเรื่อย ๆ นะครับ คอยเอาซอสที่เหลือผสมกับมันหมูที่หยดอยู่ข้างล่างมาทาเนื้อหมูเรื่อย ๆ สัก 15-20 นาทีครั้งนะครับ ก็อบไปเรื่อย ๆ สักชั่วโมงหรือว่าชั่วโมงครึ่ง ก็ใช้ได้แล้วครับ

ในรูปจริง ๆ ยังอบไม่สุกมากนะครับ -_- แดงเถือกเลย แต่ว่าหิวเลย ก็เลยกิน ๆ กันไป จริง ๆ หมูดิบที่ไม่ควรกินนะครับอันตราย

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ขนมกลีบลำดวน



เพื่อนชวนไปกินเลี้ยงวันคริสต์มาส ก็เลยทำขนมไปร่วมงานด้วย ก็ช่วยกันทำกับเด็กที่บ้านเพราะว่าจะทำไปสองอย่าง (เผื่อว่าไม่ชอบอันนี้ ก็จะได้กินอีกอันนั่นเอง) จะว่าไปแล้ว ขนมกลีบลำดวนน่าจะเป็นขนมที่ทำง่ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมคือ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
  • น้ำตาล 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืช หรือว่าน้ำมันถั่วเหลือง 3/4 ถ้วย
  • ไข่แดงตี
  • ดอกมะลิ กระดังงา หรือว่าควันเทียน (ถ้ามี)
ปกติทำอาหารผมจะไม่ค่อยชั่งตวงวัด แต่ว่าทำขนมถ้าไม่ตวงนี่ จะล่มเอาได้ง่าย ๆ ดังนั้นก็ต้องตวงกันหน่อย วิธีการทำ ก็เริ่มจากเอาแป้งมาร่อนให้ละเอียด ตามด้วยน้ำตาลร่อนให้ละเอียดเหมือนกัน แล้วก็ผสมให้เข้ากับแป้ง พอเข้ากันดีแล้ว ก็ค่อย ๆ เทน้ำมันใส่ลงไปผสมกับแป้งและน้ำตาล ค่อย ๆ ใส่น้ำมันแล้วก็นวดแป้งไปเรื่อย ๆ ระวังอย่าให้แป้งเหลวเกินนะครับ ก็นวดไปเรื่อย ๆ จนแป้งเนียนเข้ากับดี ก็ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางสักสองเซ็นติเมตร ก็ปั้นไปเรื่อย ๆ จนเกือบหมดแป้ง พอปั้นเสร็จก็เอามีดคม ๆ บาง ๆ มาหั่นแป้งให้เป็นสามแฉก แบะออกเป็นกลีบดอก แล้วปั้นแป้งเป็นลูกกลม ๆ เล็ก วางข้างบนเป็นเกษรดอกไม้ (ดูรูปข้างบน) ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนหมดแป้งแล้วก็เอาไข่แดงมาป้าย ๆ ตรงเกษรดอกไม้สักนิดหน่อย เสร็จแล้วก็เอาไปอบที่ความร้อนสัก 350 F สัก 8-10 นาที ก็คอยดู ๆ เอานะครับ ว่าแป้งเหลืองออกสีน้ำตาลนิด ๆ ก็ใช้ได้แล้วครับ เอามาพักไว้ให้เย็น


ถ้าใครอยากอบให้หอม ก็เอาขนมใส่โถก้นลึก เอาดอกมะลิหรือว่าควันเทียนใส่ในถ้วยวางลงไป ปิดฝาไว้ ทิ้งไว้สักคืน ก็หอมแล้วครับ  :)

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

น่องไก่อบโรสแมรีราดซ๊อสมะขาม


เด็กที่บ้านอยากกินอะไรแปลก ๆ ก็เลยเปิดตำราอาหารไปเจอเจ้านี่เข้า วิธีการทำก็ไม่ยาก เริ่มจากเอาน่องไก่มาซับน้ำให้แห้งเสร็จแล้วก็เอาเกลือมาโรย ๆ บางให้ทั่ว แล้วก็เอาน่องไก่ไปวางบนจานทนไฟ หรือว่าตะแกรงเสร็จแล้วก็เอาโรสแมรี (rosemary) และ ออรีกาโน (oregano) โรยให้ทั่วแล้วก็ราดด้วยน้ำมันมะกอก พอทำเสร็จแล้ว ก็ preheat เตาอบไว้ที่ 300F พอความร้อนได้ที่ก็เอาน่องไก่เข้าไปอบไปเรื่อย ๆ พอไก่แห้งได้ที่ ก็เปลี่ยนเร่งไฟเตาอบให้ขึ้นไปสัก 450F เพื่อให้หนังกรอบนะครับ


ระหว่างที่อบไก่ ก็ทำน้ำราด โดยเอาน้ำใส่หม้อใบเล็ก ๆ หนึ่งส่วนและใส่น้ำมะขามลงไปอีกหนึ่งส่วน แล้วก็เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำเริ่มงวด ก็ใส่น้ำตาลปึกลงไปเยอะพอควร พอให้หวานน้ำ แล้วก็โรยเกลือ พริกไทยดำบด และลูกผักชีลงไป แล้วก็เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำเริ่มเหนี่ยว ก็ใช้ได้ครับ


กินกับข้าวสวยก็อร่อยดีเหมือนกัน หรือว่าจะกินกับมันบดก็ได้

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ชิฟฟอนส้ม


เบื่อๆ เลยทำขนมเล่นดีกว่า ถามคุณ pC ว่ากินชิฟฟอนส้มมั้ย ตอนแรกบอกว่าไม่เอา แต่พอเห็นรูปก็อยากกินขึ้นมาทันที วันนี้ก็เลยต้องมาเป็นลูกมือกิตติมศักดิ์ (หายาก)

มาดูส่วนผสมกัน
แป้งเค้กร่อน 1+1/2 ถ้วย
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ไข่ไก่ (แยกไข่แดง ไข่ขาว) 4 ฟอง
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
น้ำส้มคั้น 1/3 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
กลิ่นส้ม 1 ช้อนชา
สีผสมอาหารสีส้ม 1/2 ช้อนชา
ครีมออฟทาร์ทาร์ 2 ช้อน (แต่ที่บ้านไม่มี เลยไม่ได้ใส่)
มาการีนหรือเนยสด สำหรับทาถาด

วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้ก่อนที่ 250 องศา F ทาเนยให้ทั่วถาด ปูกระดาษไขทับ ทาเนยให้ทั่วอีกหน พักไว้
2. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ 2 ครั้ง พักไว้
3. ผสมไข่แดง น้ำมัน น้ำส้ม น้ำตาล (1/4 ถ้วย) กลิ่นส้ม สีส้ม ตีด้วยตะกร้อให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่แป้งทีละหน้อย คนตะล่อมให้เข้ากันจนหมดแป้ง
4. ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ในอ่างผสม ใช้หัวตีตะกร้อ ตีด้วยความเร็วสูง จนไข่ขาวขึ้นฟูเล็กน้อย ค่อยๆ ใส่น้ำตาลที่เหลือทีละน้อยจนหมด ตีจนไข่ขาวตั้งยอดแข็ง ปิดเครื่อง ใช้พายยางตักไข่ขาวใส่ลงผสมในอ่างแป้งที่ทำไว้ทีละน้อย คนเบาๆ ด้วยตะกร้อไปทางเดียวกันให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว จนไข่ขาวหมด
5. เทส่วนผสมใส่ถาดที่เตรียมไว้ ยกถาดเคาะเบาๆ 2-3 ครั้ง เพื่อไล่อากาศ
ุ6. ปรับเตาอบเป็นอุณหภูม 325 องศา F อบจนเค้กสุก (ที่บ้านใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
7. ยกออกมาพักไว้ 5-10 นาที คว่ำออกจากถาด ลอกกระดาษไข วางพักบนตะแกรงจนเย็น

จากนั้นก็มาทำ บัตเตอร์ครีมส้ม
ส่วนผสมมี
เนยจืด (ก้อนละ 227 g) 3/4 ก้อน พักให้นุ่ม
เนยขาว 1/4 ถ้วย
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลไอซิ่งร่อน 1/2 ถ้วย
นมข้นจืด 1/3 ถ้วย
กลิ่นส้ม 1+1/2 ช้อนชา
สีส้ม 1/2 ช้อนชา (ไม่ได้ใส่)

วิธีทำ ตีเนยสด เนยขาว เกลือ ด้วยหัวตีใบพัดด้วยความเร็วสูง จนเนยขึ้นฟูเป็นสีครีมนวล ค่อยๆ ใส่น้ำตาล จนหมด ค่อยๆ รินนมข้นจืดจนหมด ใส่กลิ่นส้ม สีส้ม ตีจนขึ้นฟูเบาเข้ากันเป็นครีม

พอเค็กเย็น ก็แบ่งเป็นสองส่วน ทาครีมปาดให้ทั่วบ่นแผ่นแรก แล้วอีกแผ่นประกบให้เสมอกัน ตัดเป็นชิ้นๆ กินได้ :-)

หมายเหตุ สูตรมาจากหนังสือ เบเกอรีเป็นอาชีพ ของสำนักพิมพ์แสงแดด

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Yeast ! We can

ในระหว่างที่ทีวีทุกช่องกำลังรายงานข่าวเลือกตั้งประธานาธิปดีของสหรัฐฯ ชนิดนาทีต่อนาที มีคนรอลุ้นอยู่ทั่วประเทศ แหะๆ ไปทำขนมปังดีกว่า กว่าจะเสร็จคงรู้ผลพอดี (เกี่ยวอะไรกันเนี่ย)

เป็นเด็กที่บ้านของเวปนี้มานาน เพิ่งได้รับเชิญให้เขียนกะเค้าบ้าง ขอประเดิมโพสต์แรกด้วย ขนมปังเนยสด ละกัน

เนื่องมาจากว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี บ้านเราก็เลยไม่มีแม้แต่ข้าวสารจะกรอกหม้อ นอกจากนั้นของต่างๆ ในตู้เย็นก็ร่อยหรอ แต่ไม่ต้องห่วงเราได้ตุนแป้งชนิดต่างๆ ไว้แล้ว เมื่อไม่มีข้าวจะกิน เก๊าะกินขนมปังแทนละกัน ของที่ใช้ก็เป็นของที่มีติดบ้านฮับ อันได้แก่ แป้งขนมปัง แป้งเค้ก นม เนย น้ำตาล เกลือ ยีสต์ นมข้นจืด นมผง ไข่ไก่ วานิลลา น้ำเปล่า (ขนาดไม่ค่อยมีของในตู้เย็นนะเนี่ย) เอ ต้องบอกมั้ยเนี่ย ว่าใช้อะไรเท่าไหร่ ทุกทีไม่เห็นพี่ Pruet เขียนเลย บอกว่าให้กะๆ เอา หุหุ ว่าแต่ทำขนมปังไม่บอกว่าใส่อะไรเท่าไหร่ จะทำได้มั้ยอ่ะ เอาเป็นว่าใส่ไว้หน่อยละกัน

ขนมปังเนยสด
แป้งขนมปัง 3 ถ้วย
แป้งเค้ก 1+1/2 ถ้วย
นมผง 1/4 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำ 2/3 ถ้วย
นมข้นจืด 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
วานิลลา 1 ช้อนชา
ยีสต์ 1/2 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืด 4 ออนซ์
เนยสดชนิดเค็ม 8 ออนซ์ หั่นเป็นชิ้นเล็ก แช่เย็นจัด
ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน สำหรับทาหน้า
น้ำตาลไอซิ่ง สำหรับโรยหน้า
เนยหรือมาการียน สำหรับทาถาด
เยอะชะมัด ทีนี้ก็มาถึงวิธีทำ เอาแป้งขนมปัง แป้งเค้ก นมผง มาร่อน 2 ครั้ง พักไว้ก่อน

จากนั้น ก็เอาส่วนผสมที่เหลือ อันได้แก่ ไข่ น้ำ นมข้นจืด น้ำตาล เกลือ และวานิลลา ใส่อ่างตีด้วยตะกร้อ พอให้เข้ากัน

แ้ล้วก็เอามาเทใส่เครื่องทำขนมปัง เพื่อเป็นการทุ่นแรง ไม่ต้องนวดเองให้ลำบาก (อันที่จริงเครื่องทำขนมปังนี้เป็นของพี่ Pruet แต่มันคงไม่ถูกกะพี่เค้า เพราะยังไม่เคยได้กินฝีมือพี่ Pruet อ๊ะ แต่ไม่ใช่พี่เค้าไม่เคยทำน๊า)
หน้าตาเครื่องทำขนมปังของพี่ Pruet

แล้วก็เทแป้งที่ร่อนเรียบร้อยแล้วใส่ลงไป ทำตรงกลางให้เป็นหลุม ใส่ยีสต์ ตั้งโปรแกรมทำ dough กดปุ่ม start พอแป้งเริ่มจับตัว เก๊าะเอาเนยจืดที่ละลายโดยการยัดใส่ไมโครเวฟซัก 20-30 วินาที เทลงไป

จากนั้น ก็ไปนั่งตีพุงเชียร์โอบามา ต่อไปได้ พอเริ่มจะแน่ใจว่าโอบามาชนะแน่ ก็ได้แป้งมาเตรียมปั้นได้ (เกี่ยวอะไรกันเนี่ย)

เตรียมถาดสำหรับอบ ทาเนยหรือมาการีนให้ทั่ว แต่คนทำขี้เกียจเลยล้างถาดเลยเอาฟรอยด์มาหุ้ม แล้วก็ฉีดเนยลงไป หุหุ

เอาแป้งออกจากเครื่องทำขนมปัง (ลืมถ่ายรูปอ่ะ ติดไว้คราวหน้าละกันน๊า) แบ่งเป็นก้อนเล็ก ก้อนละประมาณ 40 กรัม จากนั้นก็เอาแผ่แป้งให้เป็นแผ่นรียาว เอาเนยสดที่แช่เย็นวางตรงริมแป้ง แล้วม้วน วางเรียงใส่ถาด ทำจนหมด แล้วคลุมด้วยพลาสติก รอให้ขึ้นอีกซักหน่อย ระหว่างนั้นก็ไปฟังโอบามาพูดได้ รอซักพัก คนรอเริ่มรอไ่ม่ไหว เพราะอยากกินเต็มทีแล้ว เอาไข่ไก่ทาให้สีสวยๆ ก็เลยยัดเข้าเตาอบ อบที่ 340 องศาฟาเรนไฮต์ สัก 20 นาที ได้ออกมาหน้าตาประมาณเนี๊ยะ

เอาออกมาทาเนย เอาออกจากถาด วางพักบนตะแกรง โรยน้ำตาลไอซิ่งบางๆ เทคนิคในการโรยน้ำตาลไอซิ่ง ควรใช้ที่ร่อนแป้ง หรือกระชอนเล็กๆ แต่ที่บ้านที่ไซส์นี้เท่านั้น หุหุ

ภาพนี้ เจ้าของมือบอกว่า ขอมีเอี่ยวด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรเลย

กินได้แล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551

ปลาซาบะย่างซีอิ้ว



จริง ๆ จานนี้ทำไว้นานแล้ว แต่ไม่ได้เอาขึ้นเว็บสักที ขั้นตอนการทำก็ไม่ยาก(เช่นเคย เพราะยาก ๆ ทำไม่เป็น)ครับ เริ่มจากเอาปลามาล้างให้สะอาด ผมใช้ปลาแมคเคอเรล หรือว่าปลาซาบะในภาษาญี่ปุ่นนะครับ พอข้างนอกสะอาดดีแล้ ก็เอามีคม ๆ ผ่าท้องเอาใส้ออกแล้วก็ล้างท้องให้สะอาด ก่อนจะใช้มีดคม ๆ ผ่าตามยาวนะครับ ให้ได้สองชิ้น แล้วจะเลาะก้างออกก็ได้ หรือว่าจะทิ้งไว้ก็ได้ครับ แล้วก็พักทิ้งไว้ให้แห้ง

ต่อมาก็เอาซีอิวขาวญี่ปุ่น (Kikkoman นั่นแหละครับ) เทเยอะ ๆ เลยใส่ถ้วยไว้ ตามด้วยน้ำมันงา (Sesame oil) สัก 5:1 ส่วนนะครับ แล้วก็คนให้เข้ากัน แล้วก็ราดลงบนปลาให้ชุ่ม ทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงให้ซีอิ้วมันเข้าเนื้อ เสร็จแล้วก็เอาไปเข้าเตาอบ กะๆ ดูให้ด้านนอกเป็นสีเหลือง ก็กินได้แล้วครับ

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ปูอบวุ้นเส้น


ทำเหมือนกุ้งอบวุ้นเส้น แต่เปลี่ยนเป็นใช้ปู แล้วก็ปรุงรสให้เข้มกว่านิดหน่อยแค่นั้นหละครับ ^^